ในยุคที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุมบังเหียน แนวรุกของ แมนฯ ซิตี้ เป็นที่ครั่นคร้ามไปทั่วยุโรป พวกเขาสามารถครองเกมได้เหนือกว่าคู่แข่งตลอด แต่ในบางครั้งทีมยังขาดอะไรนิดๆ หน่อยๆ ทำให้ยังไม่เพอร์เฟกต์ ซึ่งดูได้จากเกมที่แพ้ เชลซี ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
การได้ กรีลิช มาร่วมทัพจะเป็นการเติมเต็มในจุดนี้ โดยนักเตะเลือดผู้ดีมีความสามารถในการครองบอลที่ยอดเยี่ยมทั้งการลากเลื้อยด้วยความเร็ว, การเล่นบอลในพื้นที่แคบๆ ได้อย่างคล่องแคล้ว และมีจังหวะการผ่านบอลที่เฉียบคมด้วย กรีลิช เป็นนักเตะที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาตลอดในอาชีพของเขา นับตั้งแต่ที่ย้ายไปฝึกปรือวิชาลูกหนังกับศูนย์เยาวชนของ แอสตัน วิลล่า ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนจะได้ลิ้มรสชาติความสำเร็จในระดับเยาวชนเมื่อนำ “สิงห์ผงาดจูเนียร์” คว้าแชมป์ ยูฟ่า เน็ตเจน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีเมื่อปี 2013
เมื่อก้าวย่าวเข้าสู่วัยรุ่นวุ่นรักตอน 16 ปี เขามีชื่อเป็นตัวสำรองแต่ไม่ได้ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมที่แพ้ เชลซี 2-4 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2012 จากนั้นโชคชะตาส่งให้เจ้าตัวได้ออกไปหาประสบการณ์แบบยืมตัวกับ น็อตต์ เคาน์ตี้ ในปี 2013
การไปเล่นที่นั่นทำให้ กรีลิช มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว โดยการได้ลงนามในเกมระดับลีก วัน ช่วยให้สภาพร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งยิ่งขึ้นรวมทั้งคุณภาพในเรื่องของเทคนิคการเล่นก็เพิ่มพูน
กรีลิช ได้ลงสนาม 39 แมตช์ในช่วงระหว่างที่ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัว พร้อมกับซัดไป 5 ประตู ก่อนจะหวนกลับมา วิลล่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล 2013/2014 ด้วยศักยภาพที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั้นเจ้าตัวได้ลงสนามเปิดตัวให้กับทีมชุดใหญ่ของ วิลล่า ในนาทีที่ 88 เกมที่แพ้ยับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ก่อนที่เขาจะเริ่มโด่งดังหลังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวให้กับต้นสังกัดในการนำสโมสรคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ ฮ่อง กง เซเว่นส์ เมื่อปี 2014
ในฤดูกาลถัดมา กรีลิช ได้สถาปนาตัวเองเป็นนักเตะหลักของ วิลล่า เขามีโอกาสได้ลงสนามในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 17 แมตช์ และได้ลงสนามทุกรอบในศึกเอฟเอ คัพ ปี 2015 โดยโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในเกมสอย ลิเวอร์พูล 2-1 รอบรองชนะเลิศ
สำหรับเกมนัดชิงฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลก กรีลิช ได้ลงสนามจนจนเกม ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น และพยายามช่วยทีมเต็มที่แล้วแต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายยับเยินให้กับ อาร์เซน่อล 0-4 อย่างไรก็ตามจบฤดูกาลนั้นเจ้าตัวได้รับเลือกให้คว้ารางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ วิลล่า
ในซีซั่นต่อมา กรีลิช ต้องเจอวิบากกรรมเมื่อมีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้า ทำให้เขาได้ลงสนามเพียงแค่ 27 เกมจากทุกรายการสุดท้าย วิลล่า ต้องร่วมไปเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ แต่หลังจากนั้นนักเตะก็ได้ลงสนาม 31 แมตช์ในฤดูกาลถัดมา
กรีลิช มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ แชมเปี้ยนชิพ ทีม ออฟ เดอะ เยียร์ ประจำฤดูกาล 2018/2019 ขณะเดียวกัน วิลล่า ก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก ด้วยการชนะเพลย์ออฟ แถมเจ้าตัวก็ได้รับเกียรติให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเดือนมีนาคมของฤดูกาลนั้น
เพียงแค่ปีแรกที่ได้กลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด วิลล่า สามารถทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกลีก คัพ (คาราบาว คัพ) แต่น่าเสียดายที่พ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ 1-2 ส่วน กรีลิช ลงสนาม 41 แมตช์จากทุกรายการที่ทีมรักเข้าร่วมโม่เกือก
ในฤดูกาล 2020/2021 ดาวเตะวัย 25 ปี ได้รับเลือกคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งซีซั่นของ วิลล่า ก่อนที่เขาจะติดทีมชาติอังกฤษ และลงสนาม 5 แมตช์ให้กับบ้านเกิดจนกรุยทางไปถึงนัดชิงยูโร 2020 แต่น่าเสียดายที่ “สิงโตคำราม” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน (แพ้จุดโทษ อิตาลี)
สำหรับตอนนี้ กรีลิช เตรียมจะสร้างตำนานบทใหม่ของเขาในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม แน่นอนว่าศักยภาพของนักเตะ กอปรกับมันสมองของ เป๊ป งานนี้คอลูกหนังคงได้เห็นเกมบุกที่จัดจ้านและมีมิติที่หลากหลายของ แมนฯ ซิตี้แน่นอน